ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนที่จะขึ้นภาษีจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ยังไม่เกิดขึ้น (unrealized gains) ของมหาเศรษฐี และยังกำหนดภาษีเพิ่มเติมอีก 3% Elon Musk หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็ถูกบังคับให้ขายหุ้นของเขาเช่นกัน ตามรายงาน Musk จะต้อง จ่ายมากกว่า 15 พันล้านดอลลาร์ สำหรับบิลภาษีออปชั่นหุ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ผู้ก่อตั้ง Tesla เริ่มรณรงค์การลงคะแนนเสียงบน Twitter และผลการวิจัยพบว่าสัดส่วนการสนับสนุนให้เขา ขายหุ้น 10% สูงถึง 57.9% เปิดในวันจันทร์ ราคาหุ้นของ #Tesla เกิดแก็ปและตกลงมาที่ $1,138 ต่ำกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 4 วัน และดีดตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ $1,196.88 ภายในวัน จากนั้นร่วงลงอีกครั้งและปิดที่ $1161.02 ปัจจุบันราคาปิดของมันลดลง 7% จากจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า Musk มียอดขาย 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาหุ้นของ Tesla และ มูลค่าตลาดของ Tesla ลดลงเกือบ 5% เป็น 1.167 ล้านล้านสหรัฐ ดอลลาร์
เป็นที่น่าสังเกตว่า ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ ที่ Musk อาจยังคงเผชิญอยู่คือ David Beasley (David Beasley) ผู้ดูแลโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้เขา บริจาคเงิน 6.6 พันล้านดอลลาร์เพื่อบรรเทาความหิวโหยทั่วโลก แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเป็นเพียง 26% ของมูลค่า 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังสามารถกระตุ้นการบีบแกมมาแบบย้อนกลับได้อีก สถานการณ์นี้หมายความว่าราคาหุ้นที่ลดลงจะกระตุ้นให้สถาบันซื้อ put options เพื่อป้องกันความเสี่ยง และผู้กำหนดตลาดออปชั่นจะต้องขายหุ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนรายย่อยก็จะขายอย่างบ้าคลั่งในทันที ในที่สุด ทุกคนจะกลายเป็นผู้ขาย หุ้นของบริษัทจะประสบกับการขายออกมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค：
ที่น่าสนใจ กราฟราคารายวันแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้น #Tesla มีการปรับฐานที่คมชัดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ดีดตัวขึ้นในเดือนพฤษภาคมของปีนี้ และการปรับฐานเกิดขึ้นที่ระดับ Fibonacci retracement 50.0% [ขยายจาก จุดต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม 2019 ที่ 179.44 ไปที่ จุดสูงสุดเดือนสิงหาคม 2020 2,318.51] ดังนั้นในระยะสั้น เมื่อพิจารณาจากการกำหนดค่าเชิงลบของตัวชี้วัดทางเทคนิค (เส้นเร็วของ MACD ลดลงเล็กน้อย RSI และตัวชี้วัด Stochastic กำลังลดลงในพื้นที่ Overbought) ราคาหุ้น #Tesla อาจทดสอบ แนวรับในระยะสั้นที่ 1,110 ดอลลาร์ หากแรงขายทวีความรุนแรงและทะลุระดับนี้ แนวรับถัดไปที่น่าจับตามองคือ ราคาจิตวิทยาที่ 1,000 ดอลลาร์หรือ 995 ดอลลาร์ (61.8% ระดับ Fibonacci retracement)
ในแง่ดี ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งอาจช่วยสนับสนุน Tesla ให้ต้านทานการทำ short sell ได้มากขึ้น ข่าวล่าสุดชี้ให้เห็นว่า Tesla วางแผนที่จะเปิดโรงงานในแคนาดาเพื่อ ผลิตแบตเตอรี่ที่มีราคาถูกกว่าและวิ่งได้ระยะที่สูงกว่า ปัจจัยบวกอื่นๆ ได้แก่ การส่งมอบรถยนต์ที่แข็งแกร่ง (จำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบจนถึงปีนี้สูงถึง 627,350 คัน ซึ่งมากกว่าการส่งมอบรถยนต์รวมเกือบ 500,000 คันในปีที่แล้ว) และราคารถยนต์ที่สูงขึ้น (ซึ่งคาดว่าจะชดเชยความท้าทายที่เกิดจากห่วงโซ่อุปทาน ) ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ การสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์จำนวนมาก (ในอนาคต ผลิตภัณฑ์ของ Tesla จะทำให้ก้าวกระโดดมากขึ้น) เป็นต้น ดังนั้น หากราคาหุ้น #Tesla พบแนวรับ แนวต้านระยะสั้นจะอยู่ที่ $1250 (50.0% ระดับ Fibonacci retracement) การทะลุระดับนี้อาจผลักดันให้ตลาดกระทิงขึ้นสู่ ระดับต่ำสุดในเดือนสิงหาคมของปีที่แล้วที่ $1,365 แนวต้านที่สามคือบริเวณ $1460 ถึง $1500
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Larince Zhang
Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
