EURUSD, H1
คู่นี้ยังคงทำเทรนด์สูงขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยสามารถขึ้นทำ high รอบสามสัปดาห์ที่ 1.1668 หลังจากดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอ่อนค่าจากการกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (risk-on) ของตลาด เนื่องจากเป็นช่วงฤดูรายงานผลประกอลการ ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า ใกล้โซน all-time high อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจากรายงานข้อมูลภาคการก่อสร้างของกลุ่มยูโรโซนเดือนสิงหาคม ที่หดตัวครั้งแรกที่ -1.6% ต่อปี หลังจากการฟื้นตัวต่อเนื่องห้าเดือนก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ EURUSD ย่อลงมาที่โซน 1.1630 และตอนนี้เทรดอยู่ที่ 1.1643
เมื่อดูตามนโยบายของธนาคารกลางแล้ว จะพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Fed จะมีการขยับนโยบายเร็วกว่า ECB โดย Fed อาจมีการปรับลด QE เร็วสุดคือกลางเดือนพฤศจิกายน และเริ่มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่ ECB อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.1% ก่อนสิ้นปี 2022 โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Lagarde ประธาน ECB กล่าวว่าธนาคารจะยังคงให้ความช่วยเหลือเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนต่อไป เนื่องจากผลกระทบของการระบาดยังคงมีอยู่ โดยพยายามรักษาบรรยากาศความกลัวของตลาดด้วยการกล่าวว่า เธอยังคงคาดว่าปัญหาห่วงโซ่อุปทานและการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว
สำหรับในมุมมองเทคนิคอลแล้ว บริเวณ high 1.1670 ของสัปดาห์นี้ถือเป็นโซนแนวต้านที่น่าสนใจ เนื่องเป็นบริเวณ low ของเดือนสิงหาคม ขณะที่มุมมองสำหรับวันนี้ ในไทม์เฟรม H1 มุมมองยังคงเป็นบวกในกรอบชาแนลขาขึ้น เหนือเส้น MA50 ซึ่งสอดคล้องกับ MACD ที่ยังคงอยู่เหนือเส้น 0 รวมถึง RSI อยู่เหนือระดับ 50 ที่ 55 จึงมีความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นการทดสอบ high เดิมอีกครั้งที่โซน 1,1670 ในทางกลับกัน หากราคาหลุด 1.1625 ลงมา จะมีแนวรับถัดไปที่โซน low ของสัปดาห์ที่ 1.1575
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Chayut Vachirathanakit
Market Analyst – HF Educational Office – Thailand
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา