ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกามีอิทธิพลอย่างมากต่อวิธีที่โลกตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศ เช่นสงคราม การระบาดของโลกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นั่นเป็นเหตุผลที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองของโลกมาโดยตลอด
เช่นเดียวกับหลายๆ สหรัฐดำเนินการตามระบบรัฐบาล สาธารณรัฐประธานาธิบดี อย่างไรก็ตามสหรัฐอเมริกาเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ และเป็นประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่มีสาขาการปกครองที่แยกจากกันสามสาขา ประกอบด้วยสภานิติบัญญัติสองสภา ในทางตรงกันข้ามกับส่วนอื่นๆ ของโลก พวกเขามีระบบการเลือกตั้งที่ไม่เหมือนใครเนื่องจากมีลักษณะทางอ้อม ขณะที่ชาวอเมริกันลงคะแนนเสียงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครที่ตนชอบ ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีคนลงคะแนนให้กับผู้สมัครที่พวกเขาชื่นชอบ พวกเขากำลังลงคะแนนในการแข่งขันระดับรัฐมากกว่าการแข่งขันระดับประเทศ ดังนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากทุกรัฐจึงเป็นผู้ที่จะเลือกประธานาธิบดีจริงๆ ผู้ชนะคือพรรคที่ ได้รับเลือก 270 ที่นั่งหรือมากกว่านั้น จาก 538 ที่นั่ง ในกรณีที่ไม่มีผู้สมัครได้เสียงข้างมาก สภาผู้แทนราษฎรเลือกประธานาธิบดี และวุฒิสภาเลือกรองประธานาธิบดี ในกรณีส่วนใหญ่ ผู้ชนะที่คาดการณ์ไว้จะประกาศในคืนวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนหลังจากปิดการลงคะแนน แต่ การลงคะแนนเลือกตั้ง จริง จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งพบกันในรัฐของตน
การเลือกตั้งของสหรัฐฯ จะจัดขึ้นทุกๆ สี่ปี ในหนึ่งปีหารด้วยสี่ ซึ่งผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีจะได้รับเลือกตามวิธีการที่กำหนดโดยแต่ละรัฐ มีการกำหนดให้เป็น “วันอังคารถัดไปหลังจากวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน” เท่ากับ “วันอังคารแรกหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน” วันที่เร็วที่สุดคือวันที่ 2 พฤศจิกายน และวันที่เป็นไปได้หลังจากนั้นคือวันที่ 8 พฤศจิกายน ในปีนี้ วันเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาคือวันที่ 3 พฤศจิกายน
Usa.gov
ผู้สมัครในปีนี้ได้แก่ อดีตรองประธานาธิบดี Joe Biden ของพรรคเดโมแครต และประธานาธิบดี Donald Trump ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน นอกจาก Trump และ Biden แล้วผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเลือกสมาชิกใหม่ของสภาคองเกรสด้วย เมื่อกรอกบัตรลงคะแนนในวันที่ 3 พฤศจิกายน
กระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นไปตามวงจรนี้ ตามที่อธิบายไว้ใน หน้ารัฐบาลสหรัฐฯ:
- ฤดูใบไม้ผลิของปีก่อนการเลือกตั้ง – ผู้สมัครประกาศความตั้งใจที่จะลงสมัคร
- ฤดูร้อนของปีก่อนการเลือกตั้งจนถึงฤดูใบไม้ผลิของปีการเลือกตั้ง – การอภิปรายขั้นต้นและการดีเบตจะเกิดขึ้น
- เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนของปีการเลือกตั้ง – รัฐและพรรคต่างๆ พบปะเบื้องต้นและพรรคการเมือง
- กรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน – พรรคจัดประชุมเสนอชื่อเพื่อเลือกผู้สมัครของตน
- กันยายนและตุลาคม – ผู้สมัครเข้าร่วมการอภิปรายประธานาธิบดี
- ต้นเดือนพฤศจิกายน – วันเลือกตั้ง
- ธันวาคม – ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนใน Electoral College
- ต้นเดือนมกราคมของปีปฏิทินถัดไป – สภาคองเกรสจะนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง
- วันที่ 20 มกราคม – วันเข้ารับตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามบทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพียงเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจระบบการปกครองของสหรัฐอเมริกา แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่จุดอ้างอิงของสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ไม่แน่นอน ที่รวมไปถึงในตลาดด้วย ผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบทันทีต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดโลกเช่นกัน เนื่องจากผู้สมัครแต่ละคนมีนโยบายทางเศรษฐกิจและการคลังที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีนโยบายการค้าที่แตกต่างกันด้วย โดยเฉพาะในขณะนี้ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน ดังนั้นในบทความที่กำลังจะมาถึง เราจะมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับจากผลการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในตลาดโดยทั่วไป และแม่นยำมากขึ้นในตลาดหุ้น
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด, นี่คือวันสำคัญที่กำลังมาถึงก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายน:
29 กันยายน – มหาวิทยาลัย Notre Dame ได้รับการกำหนดให้เป็นเจ้าภาพการอภิปรายประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2020 แต่มหาวิทยาลัยได้ถอนตัวจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความกังวลด้านสุขภาพ ขณะนี้การอภิปรายมีกำหนดจะจัดขึ้นที่มาหวิทยาลัย Case Western Reserve ในโอไฮโอ
22 ตุลาคม – มหาวิทยาลัย Belmont ใน แนชวิลล์, เทนเนสซี จะเป็นเจ้าภาพการอภิปรายประธานาธิบดีครั้งที่สามและครั้งสุดท้าย
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Andria Pichidi
Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
